Relax Home ปิดตายแล้วจ๊ะพบกันที่เวบด้านล่างนะจ๊ะ Relax Home ปิดตายแล้วจ๊ะพบกันที่เวบด้านล่างนะจ๊ะ
เข้าทางนี้เลยค่ะ>>>> http://www.b.yimwhan.com/board/board.php?user=numtan (ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ)
 
 ช่วยเหลือช่วยเหลือ   ค้นหาค้นหา   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก   กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register) 
 ข้อมูลส่วนตัว(Profile)ข้อมูลส่วนตัว(Profile)   เข้าสู่ระบบเพื่ออ่านข้อความส่วนตัวเข้าสู่ระบบเพื่ออ่านข้อความส่วนตัว   เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in) 

Important Notice: We regret to inform you that our free phpBB forum hosting service will be discontinued by the end of June 30, 2024. If you wish to migrate to our paid hosting service, please contact billing@hostonnet.com.
The Myth....

 
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    Relax Home ปิดตายแล้วจ๊ะพบกันที่เวบด้านล่างนะจ๊ะ -> ห้องธรรมมะ
อ่านหัวข้อก่อนหน้า :: อ่านหัวข้อถัดไป  
ผู้ตั้ง ข้อความ
revenge
♥บุกเบิก♥ระดับ2


เข้าร่วม: 09 Sep 2008
ตอบ: 47

ตอบตอบเมื่อ: Thu 18 Mar 2010,12:42 pm    เรื่อง: The Myth.... ตอบโดยอ้างข้อความ

<center>

จากภาพยนต์เรื่อง The MythและเพลงEndless Love


<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/pIIb_4cSafs&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/pIIb_4cSafs&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

เนื้อเพลง Endless Love (ฉบับแปลภาษาอังกฤษ)


Release me from this mysterious waiting

ช่วงเวลาที่ฉันได้หลุดลอยจากการรอคอยที่แสนจะยาวนาน
The stars are falling, the wind is blowing

ช่วงเวลาที่ดาวกำลังล่วงหล่น สายลมกำลังพัดผ่าน
Finally I can hold you in my arms

สุดท้ายฉันก็ได้ประคองกอดเธอในอ้อมแขน
Two hearts now are beating together
ช่วงเวลาที่หัวใจสองเราเต้นระรัวด้วยกันอีกครั้ง


Believe me, my heart will never change


เชื่อเถิดว่าหัวใจฉันคงไม่มีทางเปลี่ยนแปลง
Even thousand years, my promise is still there

แม้เวลาจะเปลี่ยนไปสักพันปี สัญญาใจก็ยังคงเดิม

No matter how many cold winters have passed


แม้ลมหนาวจะผ่านไปหลายฤดูกาล

Still I will not let you go
ฉันก็ยังละลานไม่ให้เธอจากไป


Please hold my hands now, close your eyes
โปรดจับมือฉันไว้และหลับตา

And think about the days we were happy together

และฝันถึงช่วงเวลาที่เคยสุขด้วยกัน
We love each other so much, and thats why its so painful

เราสองรักกันมากมายเพียงไหน นั่นคือคำตอบว่าทำไมถึงเจ็บปวดเหลือเกิน
We even cannot say I love you
แม้คำว่า “ฉันรักเธอ” ไม่อาจเปล่งออกมาได้ก็ตาม


My heart keeps aching days and nights

หัวใจของฉันได้แต่ปวดร้าวทั้งวันและคืน
I just cannot stop thinking about you
เพียงเพราะฉันไม่สามารถหยุดคิดถึงเธอได้

Though I used to be alone
แม้จะต้องชาชินกับความเหงาที่โดดเดี่ยว

And I used to accept it easily
และฉันก็ยอมรัยมันโดยดุษฎี


Believe me, I can wait
เชื่อเถิดว่าฉันยังคงรอคอย

No matter how painful it is, I will not leave
ไม่ว่าจะปวดร้าวเพียงใด ฉันก็ไม่ยอมหลีกหนีไปไหน

Only your gentleness can save me
ความนุ่มนวลมิรู้ลืมของเธอเท่านั้นที่ยังรักษาฉันอยู่

From this cold and endless time
จากความหนาวเหน็บและกาลเวลาที่ไม่มีสิ้นสุด


Please hold my hands now, close your eyes
โปรดจับมือฉันไว้และหลับตา

And think about the days we were happy together
และฝันถึงช่วงเวลาที่เคยสุขด้วยกัน

We love each other so much, and that’s why its so painful
เราสองรักกันมากมายเพียงไหน นั่นคือคำตอบว่าทำไมถึงเจ็บปวดเหลือเกิน

We even cannot say I love you
แม้คำว่า “ฉันรักเธอ” ไม่อาจเปล่งออกมาได้
Let our love become a blossoming flower
แต่ปล่อยให้ความรักเราเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน



It can last through time; we never give up, never give up our dream
เบ่งบานผ่านกาลเวลา ไม่มียอมแพ้ ไม่มีคำว่าเลิกราในฝันของเราสอง

We love each other so much, and that’s why its so painful
เราสองรักกันมากมายเพียงไหน นั่นคือคำตอบว่าทำไมถึงเจ็บปวดเหลือเกิน

We even cannot say I love you
แม้คำว่า “ฉันรักเธอ” ไม่อาจเปล่งออกมาได้
Let our love become a blossoming flower
ปล่อยให้ความรักเราเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน

Our promises are forever
สัญญารักของเราคงอยู่คู่กาลนาน

With true love, we can travel together
สัญญารักแท้ของเราที่จะท่องผ่านกาลเวลาไปด้วยกัน

Through endless time and places
แม้จะเินิ่นนานไร้กาลเวลา และไร้แห่งหนใดๆ
We even cannot say I love you
แม้คำว่า “ฉันรักเธอ” ไม่อาจเปล่งออกมาได้
Our love is truly a myth and it will never change

แต่รักของเราก็คงเป็นตำนานและไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นอื่นใดได้อีกเลย








</center>


ผมคิดตามหลักการในพระพุทธศาสนามาเปรียบเทียบในข้อสัญญาคือความทรงจำ

คือหมายว่าความทรงที่ฝังอยู่ในวิญญานในดวงจิตที่ฝังอยู่ลองเอาอนัตตลักขณะสูตรมาพิจารณาตามข้อความในพระสูตร


อนัตตลักขณสูตร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

รูปเป็นอนัตตา ถ้ารูปนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูปนี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะรูปเป็นอนัตตา ฉะนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

เวทนาเป็นอนัตตา ถ้าเวทนานี้จักเป็นอัตตาแล้ว เวทนานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในเวทนาว่า เวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเวทนาเป็นอนัตตา ฉะนั้น เวทนาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในเวทนาว่ เวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด เวทนาของเราจงอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

สัญญาเป็นอนัตตา ถ้าสัญญานี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว สัญญานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสัญญาว่า สัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะสัญญาเป็นอนัตตา ฉะนั้น สัญญาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในสัญญาว่า สัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา ถ้าสังขารนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว สังขารเหล่านี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสังขารทั้งหลายว่า สังขารทั้หลายของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะสังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา ฉะนั้น สังขารทั้งหลายจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

วิญญาณเป็นอนัตตา ถ้าวิญญาณนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว วิญญาณเหล่านี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในวิญญาณว่า วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อม ไม่ได้ในวิญญาณว่า วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง

พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

เวทนาเที่ยงหรือไม่เที่ยง

พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

สัญญาเที่ยงหรือไม่เที่ยง

พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

สังขารทั้งหลายเที่ยงหรือไม่เที่ยง

พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความ
แปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นของเรา นั่นเป็นตนของเรา
ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง

พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล

รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่ารูปเธอทั้งหลายพึงพิจารณารูปนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็ตแต่สักว่าเวทนา เธอทั้งหลายพึงพิจารณาเวทนานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าสัญญา เธอทั้งหลายพึงพิจารณาสัญญานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

สังขารทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าสังขาร เธอทั้งหลายพึงพิจารณาสังขารนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าวิญญาณ เธอทั้งหลายพึงพิจารณาวิญญานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้ฟัง ได้พิจารณาอยู่อย่างนี้แล้ว ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมสิ้นกำหนัด เพราะสิ้นกำหนัดจิตก็พ้น เมื่อจิตพ้นแล้ว อริยสาวกนั้นก็ทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระสูตรนี้แล้ว พระปัญจวัคคีย์มีใจยินดี ในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าจบไวยากรณภาษิตนี้ จิตของปัญจวัคคีย์พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น ภิกษุ ปัญจวัคคีย์ทั้งหมดดำรงอยู่ในพระอรหัต

ครั้งนั้นมีพระอรหันต์เกิดขึ้นแล้ว ๖ องค์



ลองพิจารณาเอาครับ
_________________
สิ่งใดมีการเกิดสิ่งนั้นย่อมมีความดับเป็นธรรมดา ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต
ขึ้นไปข้างบน
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:   
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    Relax Home ปิดตายแล้วจ๊ะพบกันที่เวบด้านล่างนะจ๊ะ -> ห้องธรรมมะ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จาก 1

 
ไปที่:  
คุณสามารถสร้างหัวข้อใหม่ได้
คุณสามารถพิมพ์ตอบได้
คุณสามารถแก้ไขข้อความของคุณได้
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน


Powered by phpBB © phpBB Group. Hosted by phpBB.BizHat.com

Free Web Hosting | File Hosting | Photo Gallery | Matrimonial


Powered by PhpBB.BizHat.com, setup your forum now!
For Support, visit Forums.BizHat.com